ชื่อผลงาน : การตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงแบบออนไลน์
ผู้ถ่ายทอด : สุนทรี สารางคำ | ถ่ายทอด : วันที่ 17 กันยายน 2563 |
1.บทนำ
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เป็นมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นผลิตบัณฑิตหลากหลายสาขาวิชาที่มีคุณภาพในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งนี้มหาวิทยาลัยได้เปิดหลักสูตรอาชีวอนามัยและความปลอดภัย สังกัดภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ คณะวิทยาศาสตร์ และหลักสูตรได้จัดการเรียนการสอนรายวิชาการป้องกันและควบคุมอัคคีภัย ในการเรียนการสอนมีทั้งการเรียนรู้ทฤษฎีในห้องเรียนและฝึกปฏิบัติการตรวจอุปกรณ์ดับเพลิง ได้แก่ ถังดับเพลิงและสายฉีดน้ำดับเพลิง เพื่อให้นักศึกษาได้มีทักษะตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงอย่างถูกต้องและปลอดภัย และสอดคล้องกับประกาศกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารจัดการและดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 หมวด 3 การดับเพลิง ข้อ 13 (5) ที่ถังดับเพลิงดับเพลิง ควรได้รับการตรวจสอบสภาพ ความพร้อมใช้งานอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง จะเห็นได้ว่า คณะวิทยาศาสตร์ มีอาคารใช้งานที่เป็นสำนักงาน ห้องพักอาจารย์ ห้องบรรยายและห้องปฏิบัติการ ซึ่งแต่ละอาคารมีเครื่องมือ อุปกรณ์ และเอกสารทางการศึกษาจำนวนมากที่เป็นข้อมูลสำคัญ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นมาได้เมื่อเกิดเพลิงไหม้ และอาจเกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินและชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ คณะวิทยาศาสตร์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญต่อการป้องกันอัคคีภัยที่อาจจะเกิดขึ้น จึงมีการติดตั้งถังดับเพลิงและสายฉีดน้ำดับเพลิงประจำทุกอาคาร เพื่อให้อุปกรณ์ดับเพลิงมีความพร้อมใช้งานอยู่เสมอ และควรมีการตรวจสอบอุปกรณ์ดับเพลิงอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
การตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงภายในคณะวิทยาศาสตร์ มีรูปแบบการตรวจโดยใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงที่เป็นกระดาษรายงาน ทำให้ต้องใช้เวลาบันทึกข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ รวบรวมข้อมูล ประมวลผล และสรุปผลการตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงนำส่งผู้เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้เทคโนโลยีได้มีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้น สถานศึกษาจึงนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนเข้าถึงแหล่งการเรียนรู้และสืบค้นข้อมูลเพื่อการศึกษาได้สะดวก รวดเร็ว หลากหลายและมีประสิทธิภาพ มีการเชื่อมโยงเครือข่ายเข้าด้วยกัน สามารถเก็บข้อมูลไม่ให้สูญหายไป อีกทั้งสามารถส่งต่อข้อมูลให้ผู้อื่นได้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น จากเหตุผลข้างต้นการตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงภายในคณะวิทยาศาสตร์ จึงควรปรับเปลี่ยนรูปแบบการตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงโดยการใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงแบบออนไลน์ (Google Form) มาประยุกต์ใช้ ผู้จัดทำจึงสนใจพัฒนารูปแบบการตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงจากแบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงแบบกระดาษรายงานเป็นแบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์ ที่ใช้กับคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
2.วัตถุประสงค์
2.1 เพื่อพัฒนานวัตกรรมรูปแบบการตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงให้สอดคล้องกับศตวรรษที่ 21
2.2 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษาให้สามารถตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงได้
2.3 เพื่อส่งเสริมทักษะการเรียนรู้แบบ UBU Active Learning
3. ขอบเขตการดำเนินงาน
3.1 ขอบเขตด้านสาระเนื้อหา
ดำเนินการจัดทำแบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์และบูรณาการในรายวิชา 1114 322 การป้องกันและควบคุมอัคคีภัย
3.2 ขอบเขตด้านกลุ่มเป้าหมาย
นักศึกษาสาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัยชั้นปีที่ 4 (รหัส 60) จำนวน 57 คน คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
3.3 การประเมินผล
1) การวัดประเมินผลการเรียนรู้จากการตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์
2) เปรียบเทียบความพึงพอใจการใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงแบบกระดาษรายงานกับแบบตรวจทางออนไลน์
4. กรอบแนวคิด
5. วิธีการดำเนินการ
5.1 วิธีการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน
1) กำหนดรายวิชาที่จะพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนคือ รายวิชา 1114 322 การป้องกันและ ควบคุมอัคคีภัย หัวข้อการเรียนรู้ระบบและอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย
2) กำหนดขอบเขตของการจัดทำแบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์ ประกอบด้วยถังดับเพลิง และตู้เก็บสายฉีดน้ำดับเพลิง
3) ประชุมขอบเขตการจัดทำแบบตรวจถังดับเพลิงกับผู้ร่วมดำเนินการ
4) ดำเนินการจัดทำแบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์และแบบประเมินความพึงพอใจ
5) ตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา (Content validity) ของแบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์และแบบประเมินความพึงพอใจโดยผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 3 ท่าน
6) การหาค่าความเที่ยง (Reliability) โดยทดลองใช้ (Try out) แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์และ แบบประเมินความพึงพอใจกับบัณฑิตสาขาวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย จำนวน 30 คน
7) จัดทำ QR Code แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์
8)ใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์ในการเรียนการสอนพร้อมประเมินผลการเรียนรู้
9) ประเมินความพึงพอใจการใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงแบบกระดาษรายงานกับแบบตรวจทางออนไลน์ ด้วยแบบสอบถามความพึงพอใจในระบบออนไลน์
10) สรุปและวิเคราะห์ผลการเรียนการสอนด้วยแบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์ และเปรียบเทียบความพึงพอใจการใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงแบบกระดาษรายงานกับแบบตรวจทางออนไลน์
5.2 เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูล
- เก็บข้อมูลผลการเรียนรู้ โดยใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์และแบบประเมินความพึงพอใจ
5.3 การวิเคราะห์ข้อมูล
- วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพในรูปแบบการบรรยาย และเชิงปริมาณโดยใช้โปรแกรม MicrosoftExcel
5.4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
- วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณา หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
6. ระยะเวลาดำเนินงาน
เดือนมกราคม 2563 ถึง เดือนกันยายน 2563
7. แผนการดำเนินงาน
ตารางที่ 1 แผนการดำเนินงานพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน
8. แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์
8.1 แบบตรวจถังดับเพลิงทางออนไลน์ สามารถเข้าไปดูได้ในhttps://forms.gle/DpHk3TgBJDDFWRsu7 หรือ สแกน QR Code
รูปที่ 1 QR Codeแบบตรวจถังดับเพลิงทางออนไลน์
8.2 แบบตรวจตู้เก็บสายฉีดน้ำดับเพลิงออนไลน์ สามารถเข้าไปดูได้ใน https://forms.gle/XxbpE4zRkqatcpH29 หรือ สแกน QR Code
รูปที่ 2 QR Codeแบบตรวจตู้เก็บสายฉีดน้ำดับเพลิงทางออนไลน์
9.สรุปผล
จากผลการดำเนินงาน พบว่า ได้พัฒนานวัตกรรมรูปแบบการตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงให้สอดคล้องกับศตวรรษที่ 21 โดยใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์ส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษาให้สามารถตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงได้สะดวก รวดเร็ว สามารถสืบค้นข้อมูลได้ง่าย นักศึกษามีความสนใจมากขึ้นและส่งเสริมทักษะการเรียนรู้แบบ UBU Active Learning ผลความพึงพอใจของนักศึกษาต่อการใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงแบบกระดาษรายงาน มีค่าเฉลี่ย 2.35 (ระดับความพึงพอใจน้อย) และความพึงพอใจของนักศึกษาต่อแบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์มีค่าเฉลี่ย 4.00 (ระดับความพึงพอใจมาก)
10. ปัจจัยความสำเร็จ
10.1 การสนับสนุนจากทีมผู้บริหารของคณะที่อนุญาตให้ตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงอย่างต่อเนื่องทุกปี
10.2 ทักษะและความสามารถของผู้ร่วมดำเนินการ ในการสร้างแบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์
10.3 การได้รับความร่วมมือจากนักศึกษาใช้แบบตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงทางออนไลน์
10.4 การบูรณาการรูปแบบการตรวจอุปกรณ์ดับเพลิงกับการเรียนการสอนแบบ UBU Active Learning
10.5 การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างนักศึกษากับอาจารย์ผู้สอน