ล่าสุดเมื่อ 17 พ.ค. “ประธานแปม” ธัชพัทธ์ เบ็ญจศิริวรรณ ประธานสโมสร ได้เซ็นสัญญา MOU ร่วมกับโรงเรียนพลูตาหลวงวิทยา จ.ชลบุรี นำโดย นายจรูญ ทองไทย ผู้อำนวยการโรงเรียน และนายพงศ์ประพันธุ์ ทับวัฒน์ รองผู้อำนวยการโรงเรียน ปัดฝุ่นสร้างทีมอคาเดมี ในพื้นที่จ.ชลบุรี และภาคตะวันออก ป้อนขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่และวงการฟุตซอลไทยอีกครั้งสำหรับทีมนักกีฬาจักรยานประเภทถนนทีมชาติไทย มีกำหนดเดินทางจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนม กลับมายังประเทศไทย ในวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 22.30 น.
เริ่มที่รุ่นไม่เกิน 53 กก. หญิง “เหมี่ยว” จุฬานันท์ ขันติกุลานนต์ ดีกรีเหรียญทองซีเกมส์ 2 สมัยเมื่อปี 2017 ที่มาเลเซีย และปี 2019 ที่ฟิลิปปินส์ ลงสนามรอบก่อนรองชนะเลิศ พบกับ ตรัน ถิ อันห์ ตุย จอมเตะสาวเจ้าภาพเวียดนาม ซึ่งได้เสียงเชียร์ปลุกใจเตะเอาชนะสาวไทยไปได้ 12-9 ส่งผลให้ จุฬานันท์ ตกรอบ 8 คนสุดท้ายได้อย่างน่าเสียดาย
“ขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่สนับสนุนพวกเราเสมอมา หลังจากนี้พวกเราทุกคนจะรวบรวมพลังใจเอาชนะให้ได้ อยากให้ทุกคนติดตามพวกเราต่อไปด้วย”ขณะที่ ศิลาวรรณ อินต๊ะมี กัปตันทีม กล่าวว่า “ เราทุกคนเตรียมพร้อมทั้งร่างกาย และสภาพจิตใจ ให้พร้อมที่สุดสำหรับการเจอเวียดนามอีกครั้งในวันพรุ่งนี้”“บรรยากาศที่กดดันของเจ้าภาพ เราต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส มองว่าพวกเขามาส่งเสียงเชียร์พวกเราเหมือนกัน จะได้มีกำลังใจและเล่นให้เต็มที่”“ข้อผิดพลาดจากอินเดีย (ชิงแชมป์เอเชีย) ทำให้เรามีโอกาสได้แก้ไข ทบทวนมากขึ้น ซึ่งมันจะทำให้เรามีข้อผิดพลาดน้อยลงและล้างแค้นเวียดนามให้ได้ ฝากแฟนบอลชาวไทยทุกคน ช่วยเชียร์พวกเราให้คว้าเเชมป์ซีเกมส์ครั้งนี้ให้ได้ค่ะ”ส่วน 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม น่าจะเป็นชุดเดียวกับที่เอาชนะ ฟิลิปปินส์ 3-0 ในรอบรองชนะเลิศ ประกอบด้วย วราภรณ์ บุญสิงห์, กาญจนาพร แสนคุณ, อิรวดี มาคริส, พรพิรุณ พิลาวัน, ศิลาวรรณ อินต๊ะมี, นิภาวรรณ ปัญโญสุข, วารุณี เพ็ชรวิเศษ, สุนิสา สร้างไธสง, กัญญาณัฐ เชษฐบุตร, อรพินท์ แหวนเงิน และธนีกานต์ แดงดาถือว่าเป็นความสำเร็จที่ต้องให้เครดิตและยกย่องชมเชยกับผู้บริหารสโมสรทุกท่าน นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ประธานสโมสร, นายวรวีร์ มะกูดี ประธานบริหาร, นายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีตประธานสโมสร ส.ส.วัชรพล โตมรศักดิ์ ร่วมกับทีมโค้ช
จบการแข่งขันรอบแรกแบ่งกลุ่ม พบกันหมด กลุ่มบี ทีมชาติไทยเป็นอันดับ 1 ชนะ 2 นัดรวด มี 5 แต้ม ขณะที่ กัมพูชา อันดับ 2 กลุ่ม ชนะ 1 แพ้ 1 มี 4 แต้ม กอดคอกันผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศคู่สองชายคู่ เฉลิมพล เจริญกิจอมร และนันทกานต์ ยอดไพสง แพ้ ปรามุดยา กุสุมาวาร์ดานา ริยันโต และเยเรเมีย เอริก โยเช ยาค็อบ 1-2 เกม 16-21, 21-12, 16-21คู่สามชายเดี่ยว สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ชนะ คริสเตียน อดินาตา 2-0 เกม 21-11, 21-12คู่สี่ชายคู่ พีรัชชัย สุขพันธ์ และพรรคพล ธีระรัตน์สกุล แพ้ เลโอ รอลลีการ์นานโด และดาเนียล มาร์ธิน 0-2 เกม 8-21, 13-21