ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้วางเงินอัดฉีดไว้ เหรียญทอง 300,000 บาท เหรียญเงิน 150,000 แสนบาท และเหรียญทองแดง 75,000 บาท ซึ่งคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ ได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองที่มี พลเอก กู้เกียรติ ศรีนาคา บริหาร ซึ่งมีมติไปแล้วว่าในการเบิกจ่ายเงินต่างๆ ให้ดำเนินการตามระเบียบ ซึ่งทุกอย่างมีกรอบไว้ชัดเจนอยู่แล้ว เหลือเพียงแค่ให้แต่ละสมาคมกีฬาเร่งดำเนินทำเรื่องการส่งเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้ามาที่กองทุน โดยกองทุนฯได้เตรียมเงินไว้เรียบร้อยแล้ว และพร้อมจะจ่ายทันที และจะจ่ายตรงไปถึงนักกีฬา ไม่ต้องผ่านสมาคมหรือคนกลางแต่อย่างใด“จริงๆกองทุนมีเงินรอไว้อยู่แล้ว เพียงแต่สมาคมกีฬาต่างๆ จะต้องเร่งทำเรื่องเบิกจ่ายให้ถูกต้องตามขั้นตอนเท่านั้น ซึ่งหากทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้องก็จะได้เงินอัดฉีดไม่ช้าอย่างแน่นอน”กองหน้าวัย 40 ปี เพิ่งเข้ารับการผ่าตัดเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งอาจต้องพักราว 8 เดือน และล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเล่าเบื้องหลังก่อนจะผ่าตัดว่า ผมไม่เคยต้องเจ็บปวดทั้งในและนอกสนามขนาดนี้ แทบจะไม่ได้นอนเป็นระยะเวลา 6 เดือน เพราะความเจ็บปวด
มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เผยได้ส่งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับคู่แข่งอย่างมาเลเซีย และเวียดนาม ให้โค้ชโย่งเรียบร้อยแล้ว เชื่อทีมชาติไทยจะล้างแค้น
นายทนุเกียรติ กล่าวว่า ในนามการกีฬาแห่งประเทศไทย มีความยินดีที่ได้ทำบันทึกข้อตกลงในการพัฒนานักฟุตบอลเยาวชนไทยไปสู่ความเป็นอาชีพ เพราะเป็นวัตถุประสงค์หลักในการทำโครงการบ่มเพาะนักกีฬาฟุตบอลเยาวชนชั้นเลิศ ที่จะส่งพวกเขาไปสู่ฟุตบอลอาชีพ โดยเฉพาะการสร้างโอกาสในเวทีเจ-ลีก ที่สามารถฝึกฝนทั้งวินัย ฝีเท้า นำไปสู่รายได้ที่สูง“ทางกกท.พร้อมที่จะผลักดันนักฟุตบอลคุณภาพของเมืองไทยออกมาสู่เวทีมาตรฐานอย่างเจลีกเพิ่มมากขึ้น และจะมีการนำเอาเยาวชนไทยที่เราได้คัดเลือกไว้แล้ว มาเข้าแคมป์พร้อมกับทดสอบฝีเท้า ให้กับทีมสต๊าฟของสโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร พิจารณา ในช่วงประมาณเดือนก.ค. หากชื่นชอบต้องการเซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพ ทางกกท.จะเป็นตัวเชื่อมให้ต่อไป”ขณะที่นายฮิโรคาซึ มิกามิ ประธานสโมสรคอนซาโดเล ซัปโปโร เผยว่า ในการลงนามครั้งนี้นับได้ว่า เป็นครั้งแรกของฟุตบอลเจ-ลีก ที่มีการลงนามความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน ซึ่งสโมสรมีความภูมิใจและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติในครั้งนี้ และมั่นใจว่าการที่จะพัฒนาเยาวชนจะส่งให้เกิดประโยชน์กับไทยและญี่ปุ่นทั้งด้านกีฬาและการท่องเที่ยว โดยสโมสรพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่สำหรับโครงการศูนย์บ่มเพาะนักกีฬาฟุตบอลเยาวชนชั้นเลิศ (Football Excellent Center) ทำมาตั้งแต่ปี 2561 โดยเยาวชนฝีเท้าดีจากการแข่งขันฟุตบอลยูธลีก เข้ามาเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกันตั้งแต่อายุ 13 ปีและมีการเก็บตัวต่อเนื่องตลอดทุกปี รวมถึงการไปเข้าแคมป์ในต่างประเทศ ที่สโมสรโบรุสเชีย ดอร์ตมุนด์ จนปัจจุบันนี้เด็กหลายคนในโครงการสามารถพัฒนาฝีเท้าข้ามรุ่นไปเล่นในอายุที่สูงขึ้น อาทิ ชนภัช บัวพันธ์ ที่แบกอายุไปเล่นเป็นตัวหลักของชุดรองแชมป์ซีเกมส์ที่เวียดนามบาเยิร์น มิวนิก จัดการขยายสัญญาให้ มานูเอล นอยเออร์ เพิ่มไปจนถึงปี 2024 เรียบร้อยแล้ว หลังเจ้าตัวมีส่วนช่วยนำทีมประสบความสำเร็จมานาน
คล็อปป์กล่าวว่า “นักเตะได้สร้างฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมขึ้น 92 คะแนนเป็นสิ่งที่บ้าคลั่ง ต้องขอแสดงความยินดีกับแมนฯ ซิตี้ เรามีเวลา 5 วันเพื่อเตรียมตัวสำหรับนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ ลีก การพลาดแชมป์ในลีกวันนี้จะเพิ่มความกระหายสำหรับเกมที่จะถึง”สำหรับ 4 ปีที่ผ่านมาโครงการได้ส่งมอบลูกฟุตบอลให้กับเยาวชนไทยและชุมชนต่าง ๆ ไปแล้วจำนวนกว่า 700,000 ลูก ซึ่งเราได้สานฝันและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนสู่เป้าหมายในการเป็นสมาชิกสโมสรชั้นนำในระดับจังหวัดและระดับประเทศ เราหวังว่าจากลูกฟุตบอล คิง เพาเวอร์ ที่ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ส่งมอบให้ จะนำไปพัฒนาฝีมือไปสู่การได้รับทุนการศึกษาในโควตานักกีฬา และการมีโอกาสเข้าโรงเรียนประจำที่ฝึก และปลุกปั้นนักกีฬาฟุตบอลอย่างจริงจังได้สำเร็จ ที่สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองและเป็นทรัพยากรที่ดีด้านกีฬาฟุตบอลให้แก่ประเทศไทยต่อไป ด้าน ลีซอ กล่าวว่า ลูกฟุตบอลมาตรฐานจะช่วยส่งเสริมให้น้อง ๆ เตะฟุตบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะลูกฟุตบอลจากโครงการ ล้านลูก ล้านพลัง สร้างฝันเด็กไทย เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ทั่วโลกใช้ในการแข่งขันจริง วันนี้ดีใจที่ได้เห็นเยาวชนไทย มีความสนใจ และมุ่งมั่นกับการเล่นกีฬาฟุตบอล เพราะหนทางสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ขอให้น้อง ๆ ขยันฝึกซ้อม ทุ่มเท และมีระเบียบวินัย นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสทำกิจกรรมฟุตบอลคลินิกกับเยาวชนไทย สอนการวางระบบการเล่นในตำแหน่งกองหน้า เน้นเรื่องการพักบอล เก็บบอล จ่ายบอล และทำประตูทุกครั้งที่มีโอกาส ขณะที่ พีรพงศ์ กล่าวเสริมว่า พื้นฐานของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ต้องมีจิตใจมุ่งมั่นกับการเล่นฟุตบอล ไม่วอกแวกกับสิ่งเร้าต่าง ๆ และเน้นการพัฒนาศักยภาพของนักเตะ มากกว่าผลของการแข่งขัน รู้แพ้รู้ชนะ ทั้งนี้ การได้เรียนรู้ทักษะที่ถูกต้องจากโค้ชมืออาชีพ ถือเป็นการปูพื้นฐานที่ดีและช่วยให้ต่อยอดไปสู่การพัฒนาอีกขั้น เพื่อมุ่งสู่การเป็นนักกีฬามืออาชีพ และสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดรวมถึงประเทศชาติต่อไป